ลม แสงแดด กับการปลูกต้นไม้ในบ้าน

Wind & Sunlight
ลมและแสงแดด สัมพันธ์กับการปลูกต้นไม้อย่างไร  

การปลูกต้นไม้ในบ้านเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นและสร้างบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติให้กับที่อยู่อาศัย แต่การปลูกต้นไม้ให้ได้ผลดีนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่เพียงแค่การเลือกชนิดของพืชเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงทิศทางลมและทิศทางแดดที่เหมาะสมในแต่ละปี 

โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีภูมิอากาศแบบเขตร้อน การวางแผนตำแหน่งการปลูกพืชตามทิศทางของแสงแดดและลมมรสุมจะช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น เช่น การเลือกปลูกพืชที่ต้องการแสงแดดจัดในทิศใต้หรือทิศตะวันตก และการปลูกพืชที่ชอบแดดรำไรในทิศเหนือหรือทิศตะวันออก 

อีกทั้งการทราบทิศทางลมจะช่วยให้สามารถป้องกันความเสียหายจากลมพายุได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการศึกษาและทำความเข้าใจทิศทางลมและแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกต้นไม้ในบ้านให้เจริญงอกงามอย่างเต็มที่ 

Plant a tree

การทราบทิศทางลมและทิศทางแดดในแต่ละปีเป็นข้อมูลที่สำคัญสำหรับการปลูกต้นไม้ในบ้าน เนื่องจากจะช่วยให้สามารถเลือกตำแหน่งการปลูกและชนิดของพืชได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืชอย่างมาก มาดูข้อมูลทิศทางลมและแดดของประเทศไทยโดยสรุปดังนี้


ทิศทางลมในประเทศไทย

ประเทศไทยมีลมมรสุมที่ส่งผลต่อทิศทางลมในแต่ละฤดูกาล ดังนี้:

1. ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (Northeast Monsoon)
  • ช่วงเวลา: พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์
  • ทิศทางลม: มาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (NE)
  • ลักษณะอากาศ: อากาศเย็นและแห้ง เป็นช่วงฤดูหนาวของประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศจะเย็นสบาย ส่วนภาคใต้จะมีฝนตกบ้าง

2. ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (Southwest Monsoon)
  • ช่วงเวลา: พฤษภาคม - ตุลาคม
  • ทิศทางลม: มาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ (SW)
  • ลักษณะอากาศ: มีฝนตกชุก เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน ลมมรสุมนี้พัดนำความชื้นจากทะเลอันดามันเข้ามา ทำให้มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคใต้และภาคตะวันออก

ทิศทางแดดในประเทศไทย

ทิศทางแดดมีความแตกต่างกันไปตามฤดูกาล ซึ่งควรคำนึงถึงเมื่อต้องการปลูกต้นไม้ในบ้าน:

1. ฤดูร้อน (มีนาคม - พฤษภาคม)
  • ทิศทางแดด: พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (ENE) และตกทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ (WNW)
  • ลักษณะแดด: แดดจัดและมีความร้อนสูง โดยเฉพาะช่วงเที่ยงวัน การปลูกต้นไม้ควรหลีกเลี่ยงการวางในจุดที่รับแดดเต็ม ๆ ในช่วงกลางวัน

2. ฤดูฝน (มิถุนายน - ตุลาคม)
  • ทิศทางแดด: พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตกทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
  • ลักษณะแดด: แดดอาจจะไม่จัดเท่าฤดูร้อน แต่มีเมฆมาก ทำให้มีแสงแดดน้อยลง ควรเลือกปลูกต้นไม้ที่ต้องการความชื้นสูงหรือสามารถทนต่อสภาพอากาศชื้นได้ดี

3. ฤดูหนาว (พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์)
  • ทิศทางแดด: พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ (ESE) และตกทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ (WSW)
  • ลักษณะแดด: แดดอ่อนลง อากาศเย็นสบาย เหมาะสำหรับการปลูกพืชที่ต้องการแสงแดดอ่อน ๆ และอากาศเย็น เช่น ผักสวนครัว

คำแนะนำในการปลูกต้นไม้ตามทิศทางลมและแดด
  • ทิศใต้และทิศตะวันตก: เหมาะสำหรับปลูกต้นไม้ที่ต้องการแดดจัด เช่น ต้นไม้ยืนต้นหรือไม้ดอกที่ชอบแสงแดด
  • ทิศเหนือและทิศตะวันออก: เหมาะสำหรับปลูกต้นไม้ที่ต้องการแดดรำไร เช่น พืชในร่มหรือไม้ประดับ
  • ควรปลูกต้นไม้ในจุดที่สามารถกันลมแรงได้ โดยเฉพาะในช่วงลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้เพื่อป้องกันการหักโค่น

บทสรุป การคำนึงถึงทิศทางลมและแดด จะช่วยให้ต้นไม้ที่เราเลือกปลูกในบ้านของคุณ เจริญเติบโตได้อย่างแข็งแรงและสวยงามมากขึ้น 

Post a Comment

ใส่คำแนะนำในส่วนนี้ได้เลยค่ะ

أحدث أقدم

Recent Posts