อยากมีฟาร์มแคคตัส ต้องเพาะเมล็ด
สำหรับผู้เลี้ยงแคคตัสมือใหม่ ที่ต้องการจะมี "ฟาร์มแคคตัส" หรือ "ฟาร์มกระบองเพชร" เป็นของตนเอง การจะไปซื้อไม้จากร้านแคคตัสมาเลี้ยงและขยายพันธุ์ด้วยวิธีการชำหน่อหรือกราฟ คงไม่สามารถจะเปิดเป็นฟาร์มได้เพราะปริมาณอาจไม่มากพอ หรือไม่ก็คงต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการสั่งหน่อมาปลูก
แต่ที่ได้ผลแน่นอนคือ การเพาะเมล็ด เพื่อให้ได้จำนวนมากๆ (ตามต้องการ)
แต่การเพาะเมล็ด อาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับมือใหม่ และโดยเฉพาะคนใจร้อน ยิ่งยาก เพราะการจะได้แคคตัสขนาดที่เหมาะสม และเป็นที่ต้องการของตลาด จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1-3 ปีเลยทีเดียว ยกเว้น กรณีที่ต้องการขายในขนาดที่ยังเล็กอยู่
แต่สำหรับคนที่ต้องการเริ่มต้น ถือว่า การเพาะแคคตัสจากเมล็ดจะเป็นประสบการณ์อย่างหนึ่งที่ดีมาก และควรทดลองก่อนที่จะตัดสินใจสร้างโรงเรือน ซึ่งมูลค่าอย่างน้อยก็อยู่ในระดับหมื่นถึงแสนบาทเลยทีเดียว (คำนวณราคาจากโรงเรือนที่มีขนาดกลางถึงใหญ่ จากการที่ได้ศึกษามา)
ก่อนที่จะไปเจาะลึกรายละเอียดในการเพาะเมล็ดแคคัส เรามาสรุปแบบย่อๆ เพื่อจะได้เห็นภาพรวมๆ ว่า ถ้าจะเพาะเมล็ดแบบจริงๆ แล้ว มีขั้นตอนอย่างไร
ส่วนประกอบต้องมีในการเพาะเมล็ดแคคตัส
- สิ่งสำคัญมากที่สุดคือ "เมล็ดแคคตัส"
- กระบะหรือกระถางเพาะเมล็ด (ไม่จำเป็นต้องมีรู)
- กาบมะพร้าวสับ (สำรองรองก้นกระถาง)
- พืชมอส (สำคัญมาก)
- ดินสำหรับปลูกแคคตัส
- น้ำยาเร่งราก (มีสักหน่อย เพื่อช่วยเร่งการเจริญเติบโต)
- สตาร์เกิล จี สารกำจัดแมลง
วิธีเพาะเมล็ดแคคตัส
- เริ่มต้นให้ทำการรองก้นกระถางด้วยกายบมะพร้าวสับ (ไม่มีก็ได้)
- ใส่พืชมอส หนาไม่เกิน 1 นิ้ว ตบให้พืชมอสเข้าที่แบบเบาๆ (ใส่มาก เปลือง)
- โรยด้วยสตาร์เกิล จี เล็กน้อย
- โรยเมล็ดแคคตัสแบบถี่ๆ
- รดน้ำให้ชุ่ม อาจฉีดด้วยน้ำยาเร่งรากสักนิด
- ปิดฝา รอสักประมาณ 1-2 อาทิตย์ ก็จะได้ต้นอ่อนแคคตัส
- ปลูกต่อไปนาน 2-3 เดือน
- รอให้ต้นอ่อนแคคตัสใหญ่ประมาณ 3-5 มิลลิเมตร (หรือมีหนามอ่อนเกิดขึ้นมาก่อน)
- ทำการย้ายต้นอ่อนแคคตัส ไปเพาะปลูกในกระถางที่มีดินแคคตัสเป็นส่วนผสม
- ย้ายให้แต่ละต้นอยู่ห่างกันสักนิด ประมาณสัก 1 เซนติเมตรหรือน้อยกว่าก็ได้
- จากนั้น รดน้ำธรรมดา + น้ำยาเร่งราก และปิดฝา อาจใช้เวลาอีกประมาณ 6-12 เดือน
- รอให้ต้นอ่อนเจริญเติบโตประมาณสัก 1-2 เซนติเมตร จากนั้น ก็แยกไปปลูกในแต่ละกระถางได้เลย
ข้อควรระวัง! ระหว่างการเพาะเมล็ดแคคตัส
- กระถางหรือกะบะปลูก ต้องวางในที่มีแสงบ้าง แต่ไม่ต้องโดนแดดโดยตรง
- ระหว่างการเพาะ (มีฝาปิด) ต้องระวังอย่าให้พืชมอสแห้ง สังเกตได้จากไอน้ำ ถ้าไม่มีไอน้ำเกาะบริเวณฝา แสดงว่า "มีปัญหา"
- ทุกเดือน อาจทำการตรวจสอบดูว่า มีตะไคร่น้ำ (สีเขียว) เกิดขึ้นหรือไม่ ถ้ามี อัตราการเจริญเติบโตของแคคตัสก็อาจจะช้าลง เพราะถูกแย่งอาหารไปหมด
- ทุกเดือน อาจทำการตรวจสอบดูว่า ต้นหญ้า หรือไม้วัชพืชอื่นๆ เกิดขึ้นหรือไม่ ถ้ามี แนะนำให้ถอนทิ้ง
- แคคตัสไม้ด่าง อัตราการเจริญเติบโตจะช้ากว่า แคคตัสสีเขียว
- การคัดแยกปลูกแคคตัส ไม้เขียว และไม้ด่าง ควรแยกกันปลูกจะดีกว่ามาก
- ระยะเริ่มต้น หลังจากมีการแยกหน่อแคคตัสลงกระถางปลูกแบบทั่วไปแล้ว แนะนำว่า ช่วงแรก ให้ระวังเรื่องแสงแดดสัก 1-2 อาทิตย์ อย่าให้โดนแดดตรง เพราะไม้ต้องการการปรับตัวก่อน
0 Post a Comment
ใส่คำแนะนำในส่วนนี้ได้เลยค่ะ