แค่รดน้ำก็ต้องมีเคล็ดลับ
อย่างที่ทราบกันมา บางคนปลูกแคคตัสแล้วเน่าตาย ปลูกยังไงก็ไม่รอด บางคนบอกว่า ต้องเลี้ยงแบบทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่สนใจ ต้นไม้ถึงจะรอด (เรื่องนี้ส่วนตัวก็คิดว่าจริงเหมือนกัน) แต่เอาเป็นว่า สาเหตุที่เลี้ยงแคคตัสแล้วไม่รอด น่าจะมาจากความไม่เข้าใจความชอบและไม่ชอบของแคคตัส อย่างนี้แล้วเราควรศึกษาให้ดีก่อนที่จะเลี้ยง
ปัจจัยที่ทำให้ต้นไม้เจริญเติบโต
ดิน น้ำ แสงแดด ธาตุอาหาร คือสิ่งที่จำเป็นที่ช่วยให้แคคตัสของเราเจริญเติบโตได้ดี ถ้าขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ก็อาจทำให้ไม้ไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควร หรืออาจอยู่ไม่รอดก็เป็นได้ บทความนี้ จะมาแนะนำการรดน้ำซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ (มาก) ที่จะช่วยให้แคคตัส "จะอยู่หรือจะไป"รดน้ำแคคตัสเวลาไหนดี
เวลาเช้าเป็นเวลาที่แคคตัส "ปากใบปิด" เพื่อลดการคายน้ำ โอกาสเสี่ยงต้นไม้ "สุกเพราะความร้อน" สืบเนื่องจากแดดบ้านเรา พอสายๆ หน่อยก็เริ่มร้อนแล้ว น้ำไม่ทันได้ระเหยก็อาจกลายเป็นน้ำอุ่น หรือร้อนได้ ทำให้ "เสี่ยง" ต่อแคคตัสได้
รดน้ำตอนเย็นถึงค่ำดีสุด ดีอย่างไร
ตอนเย็น เป็นช่วงที่แคคตัส "ปากใบเปิด" เพื่อรับสารอาหาร และคายน้ำ ทำให้สามารถรับน้ำได้ดี และนำสารอาหารที่ได้ไปใช้ในการสังเคราะห์แสงในเวลากลางวัน (วิชาการมากๆ)
การรดน้ำที่ดี ควรเป็นลักษณะการดูดซึมน้ำจากก้นกระถาง มากกว่าการรดน้ำ แต่ในความเป็นจริง ก็คงเป็นเรื่องค่อนข้างยาก โดยเฉพาะคนที่ปลูกจำนวนมากๆ หรือพ่อค้าแม่ค้า เอาเป็นว่า "รดน้ำ" ถ้าทำได้ ให้หลีกเลี่ยงการรดโดนลำต้นโดยตรง เพราะน้ำอาจขังตามซอกหรือตามใบได้ง่าย
รดน้ำทั้งที ควรรดให้เต็มที่ ไม่ใช่ใช้กระบอกฉีดน้ำ ยังไง ก็อาจไปไม่ถึงราก ดังนั้น รดน้ำแคคตัส ต้องรดให้ชุ่มจริงๆ ถ้าระบบดินดี ระบายน้ำได้ดี น้ำจะไหลออกจากกระถางโดยเร็ว ถ้าเป็นเช่นนี้ รับรองไม่เน่าตายแน่นอน
หยุดอ่านก่อน ก่อนรดน้ำแคคตัส!
ย้ำอีกครั้ง แคคตัสเป็นไม้ชอบน้ำ แต่สาเหตุที่ทำให้แคคตัสตาย ก็คือ "น้ำขัง" วัสดุปลูกหรือดินระบายน้ำไม่ดี ดังนั้น ก่อนจะทำการรดน้ำครั้งต่อไป ให้ตรวจสอบวัสดุปลูกก่อนว่า "แห้งหรือยัง" ส่วนวิธีมาตราฐานที่คนส่วนใหญ่แนะนำก็คือ การใช้ไม้ขนาดเล็ก จิ้มลงไปในวัสดุปลูกหรือในดิน นับ 1-2-3 จากนั้น ดึงออกมา ให้สังเกตว่า ไม้เปียกชื้นหรือไม่ ถ้าชื้น ก็ยังไม่จำเป็นต้องรดน้ำ
เพียงเท่านี้ แคคตัสที่รักของเรา ก็จะอยู่รอดและเจริญเติบโตต่อไปได้อีกนาน
แสดงความคิดเห็น
ใส่คำแนะนำในส่วนนี้ได้เลยค่ะ